ฝาบนหรือฝาหน้า? เครื่องซักผ้าแบบไหนที่ตอบโจทย์ชาวคอนโด
14 Jun 2021สำหรับคนที่อยู่คอนโด อาจไม่ใช่ทุกโครงการที่จะมีบริการซัก อบ รีด ดังนั้นการมีเครื่องซักผ้าในคอนโดจึงช่วยอำนวยความสะดวกได้มากทีเดียว แต่ด้วยความที่คอนโดส่วนใหญ่มีพื้นที่จำกัด จึงไม่ใช่เครื่องซักผ้าแบบไหนก็ได้ แต่ต้องใส่ใจเลือกให้เหมาะกับแปลนห้องคอนโดและรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องซักผ้าที่นิยมใช้ในคอนโดแบ่งเป็น 2 แบบคือ “แบบฝาบน” กับ “แบบฝาหน้า” แต่ฝาไหนที่จะใช่สำหรับคอนโดของคุณ ลองมาดูวิธีเลือกกันครับ
ประเภทของเครื่องซักผ้าในท้องตลาด
ก่อนอื่นเรามาสำรวจก่อนว่า เครื่องซักผ้าที่วางขายในท้องตลาดมีแบบไหนกันบ้าง
1. เครื่องซักผ้าฝาบนสองถัง (กึ่งอัตโนมัติ)
เหมาะสำหรับการซักผ้าปริมาณไม่เยอะมาก มีราคาถูก และสามารถซักได้หลายครั้งโดยไม่ต้องเปลี่ยนน้ำทุกครั้ง แต่ก็มีความยุ่งยากเล็กน้อยคือ จะต้องคอยย้ายผ้าจากถังซักไปยังถังปั่น ทำให้อาจจะไม่สะดวกเท่าที่ควร
2. เครื่องซักผ้าฝาบนหนึ่งถัง (อัตโนมัติ)
เหมาะสำหรับคอนโดพื้นที่จำกัด และมีงบปานกลาง ใช้งานสะดวกกว่ารุ่นสองถังเพราะมีระบบอัตโนมัติ และมีโปรแกรมให้เลือกหลากหลายกว่า
3. เครื่องซักผ้าฝาหน้า
ราคาสูงกว่าสองแบบแรก แต่เพิ่มเติมฟังก์ชั่นมากขึ้นเช่นกัน ด้วยระบบการซักผ้าแบบอัตโนมัติ ทำให้มีเมนูการซักผ้าที่ละเอียดหลากหลาย และสามารถซักผ้าได้สะอาดใกล้เคียงกับการซักด้วยมือมากที่สุด
4. เครื่องซักผ้าฝาหน้าแบบมีที่อบผ้าในตัว
นอกจากซักผ้าได้เหมือนเครื่องซักผ้าฝาหน้าทั่วไปแล้ว ยังสามารถอบผ้าให้แห้งได้ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยอยู่ห้อง ไม่สะดวกตากผ้า หรือไม่สะดวกที่จะต้องมาคอยเก็บผ้าตอนฝนตก แต่ก็มีราคาสูงที่สุดด้วยเช่นกัน
ส่วนใหญ่แล้ว ชาวคอนโดมักนิยมใช้เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติมากกว่า เพราะสะดวกในการใช้งานและประหยัดเวลามากกว่าแบบกึ่งอัตโนมัติ แต่จะเลือกเครื่องซักผ้าฝาบน หรือเครื่องซักผ้าฝาหน้าดีนั้น ลองมาดูข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันต่อเลยครับ
5 เช็กลิสต์ต้องรู้ ก่อนเลือกเครื่องซักผ้าสำหรับคอนโด
1. เช็กขนาดพื้นที่
ควรวัดขนาดจุดที่จะตั้งเครื่องซักผ้าให้ละเอียดก่อนซื้อ ทั้งความกว้าง ความยาว และความสูง
1.1 พื้นที่ 48-60 เซนติเมตร: เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
1.2 พื้นที่ 34-48 เซนติเมตร: เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดกลาง
1.3 พื้นที่ 40-45 เซนติเมตร: เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน
แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูแปลนห้องประกอบด้วยเช่นกัน เพราะคอนโดบางที่อาจกำหนดไว้ในแปลนแล้วว่าควรตั้งเครื่องซักผ้าแบบไหน ควรจะวางไว้ในห้อง หรือนอกห้องนั่นเองครับ
2. เช็กตำแหน่งระบบน้ำ
เช่น ท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง หรือก๊อกที่ใกล้ที่สุด ว่าเหมาะกับเครื่องซักผ้าแบบที่คุณสนใจหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบระบบน้ำและความแรงของน้ำแต่ละจุดว่าพร้อมแล้วหรือไม่
3. เช็กปริมาณผ้าและความถี่ในการซัก
ควรดูชนิดของผ้าที่ต้องการซักด้วยว่า เป็นเสื้อผ้าธรรมดาทั่วไป หรือเป็นผ้าหนาๆ เช่น กางเกงยีนส์ 1 ตัวเมื่อเปียกน้ำอาจหนักเท่ากับเสื้อเชิ้ตหลายตัว เป็นต้น หรือดูว่าต้องการซักผ้าห่มหรือผ้านวมผืนใหญ่ๆ ด้วยหรือไม่ หากซักผ้าไม่มากสามารถเลือกรุ่น 7-8 กิโลกรัม ได้ แต่ถ้าซักผ้านวมผืนใหญ่ๆ แนะนำว่าควรเป็นเครื่องซักผ้ารุ่นความจุ 12-15 กิโลกรัม เป็นต้น
4. เช็กระบบไฟ
ตรวจสอบที่ห้องคอนโดของคุณว่าตำแหน่งที่ต้องการวางเครื่องซักผ้านั้น มีปลั๊กไฟ สายดิน และ Breaker หรือยัง และบริเวณปลั๊กเต้ารับที่ใช้เสียบควรมีฝาครอบกันน้ำด้วย อีกข้อที่สำคัญก็คือ ควรตรวจเช็คว่าบริเวณที่จะติดตั้งเครื่องซักผ้ารองรับกำลังไฟได้แค่ไหน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไฟตัดขณะที่เครื่องทำงาน ซึ่งจะทำให้เครื่องซักผ้ามีอายุการใช้งานสั้นลงได้
5. เช็กรูปแบบบริการหลังการขาย
ดูว่าเครื่องซักผ้ายี่ห้อที่สนใจนั้นมีประกันหลังการขายหรือไม่ และควรเลือก On-site Service หรือบริการซ่อมให้ถึงคอนโด เพื่อจะได้ไม่ต้องลำบากในการขนเครื่องซักผ้าในห้องไปซ่อมนอกสถานที่ และได้อะไหล่ของแท้ที่ตรงรุ่น
เปรียบเทียบเครื่องซักผ้าฝาบนและเครื่องซักผ้าฝาหน้า
หลังจากเช็คลิสต์กันไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือนำเอาข้อดีข้อเสียของเครื่องซักผ้าแต่ละแบบมาเปรียบเทียบ เพื่อหาแบบที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณและคอนโดของคุณกันครับ
ข้อดีของเครื่องซักผ้าฝาบน
- มักมีราคาถูกกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า ทั้งราคาเครื่องซักผ้า และราคาอะไหล่
- ปั่นผ้าได้แห้งกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- เหมาะจะซักผ้าห่มและผ้านวม แต่ควรเป็นรุ่นความจุ 12-15 กิโลกรัม
- ประหยัดเวลาในการซักผ้ามากกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- สามารถใส่ผ้าเพิ่มได้ระหว่างการซัก
ข้อเสียของเครื่องซักผ้าฝาบน
- ด้วยทิศทางการซัก มักทำให้ผ้าพันกันง่ายจนเสียรูปทรง หรือเป็นขุยมากกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- เปลืองน้ำมากกว่า 1-1.5 เท่า เมื่อเทียบกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
อาจมีกลิ่นอับง่ายเนื่องจากข้อจำกัดเรื่องระบบไหลเวียนน้ำ
ข้อดีของเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- มีโหมดการซักผ้าที่หลากหลาย และซักผ้าได้สะอาดกว่า
- ปรับอุณหภูมิน้ำในการซักได้ทั้งร้อนและปกติ
- ถนอมเนื้อผ้าขณะปั่นแห้งมากกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน
- ประหยัดน้ำมากกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน 1-1.5 เท่า
- มีปัญหาผงซักฟอกตกค้างน้อยกว่า
- เสียงเงียบกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาบน
ข้อเสียเครื่องซักผ้าฝาหน้า
- เมื่อเครื่องซักผ้าเริ่มทำงานมีน้ำในเครื่องแล้ว จะไม่สามารถใส่ผ้าเพิ่มทีหลังได้ เนื่องจากฝาหน้าจะล็อค
- ใข้เวลาในการซักผ้านานกว่าจึงมักกินไฟมากกว่า
- มีราคาแพงกว่า
- มักมีความจุน้อยกว่า
จะเห็นได้ว่าเครื่องซักผ้าแต่ละแบบก็มีดีกันไปคนละอย่าง ตอบโจทย์รูปแบบห้องและสไตล์การใช้ชีวิตของชาวคอนโดที่แตกต่างกัน ซึ่งแกรนด์ ยูนิตี้ก็หวังว่าเคล็ดลับดีๆ ที่เราเอามาฝากกันนี้ จะช่วยให้คุณค้นหาเครื่องซักผ้าที่ใช่ได้ในที่สุดนะครับ
แกรนด์ ยูนิตี้ เรามุ่งมั่นที่จะตอบทุกเหตุผลของการใช้ชีวิต เพื่อให้คุณได้ #ใช้ชีวิตบนเหตุผลของคุณ.
บทความที่คุณอาจสนใจ
วิธีประหยัดค่าไฟง่ายๆ จ่ายน้อย ช่วงหยุดทำงานที่บ้าน
10 อุปกรณ์สมาร์ทคอนโดสุดล้ำ! ในราคาที่จับต้องได้ !