เลือกยังไง หากยื่นกู้หลายธนาคาร ตัดสินใจจากอะไร

10 Apr 2023
Cover - เลือกยังไง หากยื่นกู้หลายธนาคาร ตัดสินใจจากอะไร

ไขข้อข้องใจ ยื่นกู้บ้านหลายธนาคารต้องพิจารณาอะไร เลือกแบบไหนถึงได้สินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการ

ยื่นกู้บ้านหลายธนาคาร

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยสักนิดถ้าคิดซื้อบ้านแล้วอยากยื่นกู้บ้านหลายธนาคาร เพราะขนาดจะซื้อสินค้าและบริการอื่น ๆ บางครั้งยังต้องคิดแล้วคิดอีก ยิ่งเป็นการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึง หลายคนต้องหาข้อมูลอยู่นานทั้งด้านทำเลที่ตั้ง การเดินทาง สภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก และที่ขาดไม่ได้คือเรื่องราคา เพราะเมื่อตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดฯ แล้วต้องมั่นใจว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระ แต่เพราะปัจจุบันมีสินเชื่อบ้านและคอนโดฯ จากหลายธนาคาร แต่ละธนาคารมาพร้อมข้อเสนอล่อตาล่อใจ แต่จะเลือกอย่างไรและพิจารณาจากอะไรบ้าง วันนี้ แกรนด์ ยูนิตี้ ขอแนะนำวิธีเบื้องต้นสำหรับคนอยากกู้บ้านแต่ไม่แน่ใจว่าควรเลือกอย่างไร เมื่อรู้แบบนี้ให้รีบเตรียมเอกสารขอสินเชื่อบ้านให้พร้อมและเตรียมยื่นกู้กันได้เลย

เอกสารยื่นกู้บ้าน

ยื่นกู้บ้านหลายธนาคาร ตัดสินใจจากอะไรบ้าง

  1. อัตราดอกเบี้ย

ไม่ว่าจะเป็นการกู้ซื้อบ้านกับธนาคารเดียวหรือกู้บ้านหลายธนาคาร เชื่อว่าดอกเบี้ยคือสิ่งที่คนต้องการกู้สินเชื่อต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก เพราะการกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำนั่นหมายถึงภาระค่าใช้จ่ายที่ลดลง แถมยังมีโอกาสผ่อนบ้านหมดเร็วยิ่งขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านและคอนโดฯ แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ การันตีอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ช่วง 1-5 ปีแรก จากนั้นจึงปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว อ้างอิงตามประกาศของสถาบันการเงิน สำหรับข้อควรระวังคืออย่าเพิ่งหลงเชื่ออัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรกที่ธนาคารมักอัดโปรโมชันด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพราะดอกเบี้ยอาจดีดตัวสูงในปีที่ 4 และปีถัด ๆ ไป แนะนำให้คำนวณอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการผ่อนชำระจะได้ไม่ต้องแบกรับดอกเบี้ยสูง ๆ และไม่ต้องเตรียมเอกสารขอสินเชื่อบ้านเพื่อรีไฟแนนซ์ทุกครั้งที่ต้องเจออัตราดอกเบี้ยสูง

นอกจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องเปรียบเทียบแล้ว อีกหนึ่งประเภทดอกเบี้ยที่คนกู้ซื้อบ้านต้องรู้จัก คือ อัตราดอกเบี้ยผิดนัด หรือดอกเบี้ยที่เรียกเก็บเมื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลา ซึ่งหลายคนมองข้ามดอกเบี้ยประเภทนี้ เพราะคิดว่าสามารถจ่ายค่างวดได้ตรงตามวันที่กำหนดแน่นอน แต่อย่าลืมว่าแม้ในวันนี้สภาพการเงินคล่องตัว แต่ในอนาคตไม่มีใครทราบได้ว่าสภาพคล่องทางการเงินจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นดอกเบี้ยประเภทนี้อาจเป็นตัวการทำให้ในอนาคตต้องแบกรับดอกเบี้ยสูง ๆ ก็เป็นได้

  1. วงเงินกู้

เชื่อว่าคนที่ยื่นกู้บ้านหลายธนาคารต่างมองหาธนาคารที่อนุมัติเงินกู้สูงสุด เพราะยิ่งวงเงินกู้สูงมากเท่าไหร่ เท่ากับว่าจะควักเงินในกระเป๋าน้อยลงเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งตกหลุมพราง เพราะอย่าลืมว่ายิ่งวงเงินอนุมัติตัวเลขสูงมากเท่าไหร่ ภาระดอกเบี้ยจะสูงขึ้น และระยะเวลาการผ่อนชำระจะนานขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ต้องระลึกเสมอว่าตัวเลขวงเงินกู้ที่ดีที่สุด ไม่ใช่วงเงินที่สูงที่สุดเสมอไป เพราะต้องพิจารณาจากสถานะการเงินของตัวเองเป็นหลัก

  1. ค่าประเมินราคา

การกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ไม่ใช่แค่การเตรียมเอกสารขอสินเชื่อบ้านให้พร้อมเท่านั้น เพราะผู้กู้ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่ผู้กู้ต้องเจอ คือ ค่าประเมินทรัพย์หรือค่าประเมินราคาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนยื่นขอสินเชื่อ เพราะธนาคารต้องประเมินราคาเพื่อพิจารณาวงเงินกู้ โดยค่าประเมินราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละธนาคาร บางธนาคารมีโปรโมชันไม่คิดค่าใช้จ่ายในการประเมินราคาซึ่งถือเป็นกำไรของผู้กู้ แต่สำหรับใครที่ยื่นกู้บ้านหลายธนาคารบอกเลยว่าต้องทำใจเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เพราะยิ่งกู้บ้านหลายธนาคารมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะมากขึ้นตามไปด้วย และไม่ว่าจะได้รับการการอนุมัติหรือไม่ ค่าใช้จ่ายนี้จะไม่สามารถขอคืนได้

  1. ความสามารถในการผ่อนชำระ

การยื่นกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดฯ นอกจากคำนึงเรื่องดอกเบี้ยและวงเงินกู้แล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งผู้กู้ควรมั่นใจว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระค่าบ้านอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลา 10-30 ปี ซึ่งโดยปกติแล้วธนาคารจะพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้สูงสุดแก่ผู้ที่มีรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายจำเป็น คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ไม่อย่างนั้นแล้วธนาคารจะปรับลดวงเงินกู้หรือขยายระยะเวลาชำระค่างวดนานขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าผู้กู้จะมีความสามารถในการผ่อนชำระคืนตามระยะเวลาที่กำหนด

  1. รายละเอียดสัญญาเงินกู้

รายละเอียดในสัญญาเงินกู้คืออีกสิ่งหนึ่งที่ผู้กู้ต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะถือเป็นข้อผูกพันระยะยาว โดยเฉพาะรายละเอียดเรื่องการรีไฟแนนซ์หรือการปรับโครงสร้างหนี้ เพราะแม้ว่าวันนี้สภาพคล่องทางการเงินยังดีอยู่ แต่ใช่ว่าในอนาคตสถานะการเงินจะยังคล่องตัวเสมอไป หากในอนาคตมีเหตุทำให้การเงินไม่คล่องตัว อย่างน้อยก็ยังมีช่องทางผ่อนผันเพื่อให้ตอบโจทย์ชีวิตในช่วงนั้น ๆ รายละเอียดสัญญาจึงต้องยืดหยุ่นเรื่องการรีไฟแนนซ์ การปรับโครงสร้างหนี้ การขอลดอัตราดอกเบี้ย การขอขยายเวลาในการชำระหนี้ เป็นต้น

การกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดฯ มีความผูกพันระยะยาว เนื่องจากมีระยะเวลาการผ่อนชำระ 10-30 ปี ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดฯ จึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้ง การเดินทาง การตกแต่ง สิ่งอำนวยความสะดวก ที่สำคัญคือเรื่องราคา ซึ่งหากต้องการกู้เงินซื้อบ้านหรือคอนโดฯ แต่กลัวว่ายื่นธนาคารเดียวแล้วไม่ผ่าน แน่นอนว่าการยื่นกู้บ้านหลายธนาคารสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องสละเวลาเพื่อเปรียบเทียบข้อได้เปรียบและเสียเปรียบของแต่ละธนาคาร รวมถึงต้องยอมรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น นั่นคือ ค่าประเมินราคา ที่แม้ได้รับการอนุมัติหรือไม่ได้รับการอนุมัติก็จะไม่ได้รับเงินคืนจากธนาคารนั่นเอง

แกรนด์ ยูนิตี้ เรามุ่งมั่นที่จะตอบทุกเหตุผลของการใช้ชีวิต เพื่อให้คุณได้ #ใช้ชีวิตบนเหตุผลของคุณ