ครบจบเรื่องกู้คอนโด ประกัน MRTA จำเป็นหรือแค่ทางเลือก?
18 Jul 2025การซื้อบ้านหรือคอนโดไม่ใช่แค่การมี “ที่อยู่อาศัย” แต่คือการลงทุนในทรัพย์สินก้อนใหญ่ ที่มาพร้อมภาระการกู้สินเชื่อ และดอกเบี้ยบ้านซึ่งต้องผ่อนชำระยาวนานนับสิบปี และเมื่อบ้านยังมีหนี้ค้างอยู่ คำถามสำคัญที่เจ้าของบ้านควรถามตัวเองคือ—ถ้าวันหนึ่งเราไม่อยู่แล้ว ใครจะรับผิดชอบหนี้ส่วนนี้ต่อ ?
หลายครอบครัวอาจไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ทำให้บ้านที่ตั้งใจจะทิ้งไว้เป็นมรดก กลับกลายเป็นภาระทางการเงินให้ลูกหลานต้องจัดการ ซึ่งปัญหานี้สามารถรับมือได้ด้วย “ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน” หรือ “MRTA” ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องครอบครัวจากหนี้สินในวันที่ไม่มีเราอยู่
เมื่อเจ้าของบ้านเสียชีวิต แต่หนี้บ้านไม่หายไป
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า เมื่อเจ้าของบ้านเสียชีวิต หนี้บ้านจะหมดไปโดยอัตโนมัติ แต่ในความเป็นจริง “หนี้สินเชื่อบ้าน” เป็นหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (คือบ้านหรือคอนโดที่กู้ซื้อ) ซึ่งยังคงต้องชำระต่อไปตามสัญญากับธนาคาร รวมถึงภาระ ดอกเบี้ยบ้านที่ยังเดินต่อทุกวัน
หากไม่มีการผ่อนชำระต่อ ธนาคารมีสิทธิ์ยึดบ้านและนำไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ในกรณีที่มีทายาทหรือคนในครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้น พวกเขาอาจต้องตัดสินใจ “ผ่อนหนี้ต่อ” แทนเจ้าของเดิม
แต่หากไม่มีใครผ่อนต่อได้จริง ๆ ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่คือ “ขายบ้าน” เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ซึ่งอาจต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะต้องการขายเร็วเพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยทบต้นไปเรื่อย ๆ หรือกระทั้ง “เสียบ้าน” โดยไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย
สรุปคือ หากไม่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า บ้านที่ควรจะเป็นหลักประกันความมั่นคงให้กับครอบครัว อาจกลายเป็นภาระที่สร้างความเครียดแทน ทั้งทางใจและทางการเงิน
รู้จักกับ “MRTA” หรือ “ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน”
MRTA คืออะไร ? MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) หรือ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน คือประกันชีวิตรูปแบบเฉพาะที่คู่กับการกู้ซื้อบ้านหรือคอนโด หากผู้กู้ที่ทำ MRTA เสียชีวิตระหว่างที่ยังผ่อนบ้านไม่หมด บริษัทประกันจะเข้ามารับผิดชอบชำระหนี้ที่เหลือให้กับธนาคารตามวงเงินที่ยังค้างอยู่ ทำให้บ้านหลังนั้น ตกเป็นของทายาทโดยสมบูรณ์โดยไม่มีหนี้ผูกพัน
ประโยชน์ที่ได้จากการทำ MRTA
- บ้านกลายเป็นมรดกเต็มตัว ลูกหลานไม่ต้องรับหนี้ต่อ
- ช่วยลดภาระทางการเงินของครอบครัว ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
- ลดความเสี่ยงในการเสียบ้าน จากการที่ไม่มีใครสามารถผ่อนต่อได้
- มอบความอุ่นใจในระยะยาว เหมือนได้วางแผนอนาคตไว้ให้ครอบครัวตั้งแต่ต้น
MRTA และการกู้ร่วม ต้องวางแผนแบบไหนถึงจะปลอดภัย
จริง ๆ แล้วการทำ MRTA ไม่ได้มีสูตรตายตัวว่าทุกคนต้องทำเหมือนกัน โดยเฉพาะในกรณีที่ มีผู้กู้ร่วม เช่น คู่สมรส พี่น้อง หรือพ่อแม่ลูก การวางแผน MRTA ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ความคุ้มครองครอบคลุมความเสี่ยงได้จริง เพราะหากทำประกันแค่คนใดคนหนึ่ง เมื่อผู้กู้รายนั้นเสียชีวิต หนี้บ้านอาจยังไม่หมดไปทั้งหมด
และหากผู้ที่ “ไม่ได้ทำ MRTA” เป็นฝ่ายเสียชีวิต คนที่อยู่ก็ต้องรับภาระผ่อนต่อเต็มจำนวนอยู่ดี ซึ่งอาจทำให้แผนการเงินที่เคยวางไว้เสียสมดุลทันที
ข้อแนะนำสำคัญ :
ในกรณีกู้ร่วม “ควรทำ MRTA อย่างน้อย 1 คน และรับภาระหลักในการผ่อน” เพื่อป้องกันกรณีที่ผู้กู้หลักเสียชีวิต แล้วอีกคนไม่สามารถผ่อนต่อได้ ก็จะไม่เสี่ยงต่อการ “เสียบ้าน” แต่หากทั้งสองฝ่ายมีรายได้ใกล้เคียงกัน หรือผ่อนคนละครึ่ง การทำ MRTA ทั้งสองคน จะเป็นทางออกที่รอบคอบที่สุด
เคล็ดลับการเลือกซื้อ MRTA ให้คุ้มค่า
การเลือกทำประกัน MRTA ควรวางแผนให้ “ถูกจังหวะ” และ “ถูกวิธี” จะช่วยให้ประกันฉบับนี้คุ้มค่าที่สุด ทั้งในแง่ความคุ้มครองและผลประโยชน์ทางการเงิน
- ซื้อ MRTA ตั้งแต่วันที่ยื่นกู้ = เบี้ยถูกกว่า ลดดอกเบี้ยบ้านทางอ้อม
การซื้อ MRTA ตั้งแต่วันยื่นกู้จะได้เบี้ยประกันที่คำนวณจากอายุของผู้กู้ในช่วงเวลานั้น ซึ่งมักจะถูกกว่าการซื้อย้อนหลังตอนอายุมากขึ้นหรือสุขภาพเปลี่ยนไปแล้ว
นอกจากนี้ การวางแผน MRTA ตั้งแต่ต้นยังช่วยให้คุณควบคุมภาพรวมของภาระดอกเบี้ยบ้าน ได้ชัดเจนขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงจ่ายมากเกินจำเป็นในระยะยาว
- ระยะเวลาคุ้มครอง ควรเท่ากับหรือใกล้เคียง “ระยะเวลาผ่อนบ้าน”
เพื่อให้ MRTA คุ้มครองหนี้ได้จนหมดจริง เช่น หากผ่อน 30 ปี ควรเลือกประกันแบบ 30 ปี (ไม่ใช่แค่ 10 หรือ 15 ปี) เพราะถ้าประกันหมดก่อน หนี้บ้านที่เหลือจะยังคงเป็นภาระครอบครัวอยู่
- พิจารณาความคุ้มครองแบบ “ครอบคลุมวงเงินทั้งหมด”
หากเลือกความคุ้มครองบางส่วน เช่น คุ้มครองแค่ 70% ของหนี้ที่กู้ ย่อมจ่ายเบี้ยถูกลง แต่ก็เสี่ยงให้ครอบครัวต้องรับภาระต่อในกรณีฉุกเฉิน
- วางแผนภาษีร่วมด้วย
เบี้ย MRTA สามารถใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี (ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร) หากวางแผนดี ๆ คุณอาจสามารถใช้สิทธิลดหย่อนนี้ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ชำระเบี้ย (เช่น ผ่อนเบี้ยรายปี 5 ปี)
- สอบถามสิทธิประโยชน์จากโครงการหรือธนาคาร
บางโครงการบ้านหรือคอนโดมีดีลร่วมกับบริษัทประกัน หรือมีทีมสินเชื่อช่วยให้คำปรึกษาและช่วยต่อรองเบี้ย MRTA ให้ได้ราคาดีขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ซื้อครั้งแรก
วางแผนซื้อ MRTA ตั้งแต่ต้น คนซื้อบ้านยุคใหม่ต้องรู้ทัน
การซื้อบ้านไม่ใช่แค่เรื่องทำเลหรือดีไซน์ แต่คือการลงทุนระยะยาวที่ควรมี “แผนปกป้องอนาคต” ควบคู่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กู้ซื้อบ้านตั้งแต่ยังอายุน้อย การทำ MRTA ตั้งแต่ต้นมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งเบี้ยถูก สุขภาพผ่านง่าย และคุ้มครองตลอดสัญญาเงินกู้
หากมีแผนจะส่งต่อบ้านให้ครอบครัว หรือวางแผนอนาคตไว้แล้ว MRTA จะช่วยให้บ้านกลายเป็นทรัพย์สินจริง ๆ ไม่ใช่ภาระหนี้ที่ทายาทต้องรับช่วงต่อ
Grand Unity ช่วยวางแผนสินเชื่อและ MRTA แบบครบวงจร
คอนโดพร้อมอยู่จาก Grand Unity มาพร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยดูแลตั้งแต่ยื่นกู้จนถึงการวางแผน MRTA ให้เหมาะกับคุณ สะดวก เข้าใจง่าย เหมาะกับผู้ซื้อบ้านครั้งแรก หรือคนที่อยากเริ่มวางแผนอย่างมั่นใจ
บ้านจะเป็นมรดกหรือภาระ…อยู่ที่คุณวางแผนไว้หรือยัง?
สุดท้ายนี้บ้านคือทรัพย์สินที่มีมูลค่า แต่จะกลายเป็น “มรดก” หรือ “ภาระ” นั้น ขึ้นอยู่กับการวางแผนของเจ้าของล้วน ๆ หากวางแผนล่วงหน้าด้วย MRTA ลูกหลานจะไม่ต้องแบกรับหนี้ก้อนโตในวันที่เราจากไป บ้านจะยังคงอยู่ และกลายเป็นหลักประกันชีวิตที่มั่นคงให้กับครอบครัว แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่วางแผนเลย บ้านอาจต้องถูกขายทอดตลาด หรือทายาทต้องผ่อนต่อโดยไม่ได้ตั้งใจ เสี่ยงเสียบ้านและเสียความรู้สึกไปพร้อมกัน
เริ่มวางแผนตั้งแต่วันที่คุณตัดสินใจ “ซื้อบ้าน” เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังสามารถเป็น “อนาคตของคนข้างหลัง” ที่คุณสามารถปกป้องได้ตั้งแต่วันนี้
เพราะการซื้อคอนโดไม่ใช่แค่การเลือกที่อยู่อาศัย แต่คือการวางแผนชีวิต คอนโดพร้อมอยู่ Grand Unity พร้อมเป็นที่ปรึกษาในทุกขั้นตอน ด้วยทีมงานที่เข้าใจทั้งเรื่องสินเชื่อและ MRTA ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้น หรือกำลังมองหาคอนโดที่ตอบโจทย์อนาคต ที่นี่มีทุกคำตอบครบในที่เดียว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเลือกโครงการที่ตรงใจคุณได้ คลิก https://grandunity.co.th/th/campaign/ready-to-move
หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official : @GrandUnity โทร. 02 652 4000
แกรนด์ ยูนิตี้ เรามุ่งมั่นที่จะตอบทุกเหตุผลของการใช้ชีวิต เพื่อให้คุณได้ #ใช้ชีวิตบนเหตุผลของคุณ
#GrandUnity #MakesSense.