ซื้อคอนโด 3 ล้านบาท วางดาวน์เท่าไหร่ให้ผ่อนสบาย
13 Aug 2025การมีคอนโดมิเนียมเป็นของตัวเอง คือเป้าหมายสำคัญที่หลายคนเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน เพราะคอนโดมิเนียมไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังสะท้อนไลฟ์สไตล์เจ้าของได้ด้วย โดยเฉพาะคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ยิ่งถ้าเป็นคอนโดติดรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยิ่งตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายในการเดินทาง ความปลอดภัย และความคล่องตัวในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้วางแผนเรื่องเงินดาวน์ให้รอบคอบตั้งแต่ต้น ความฝันนี้ก็อาจกลายเป็นภาระระยะยาวโดยไม่รู้ตัว หลายคนรีบจองห้องด้วยเงินดาวน์ขั้นต่ำ โดยไม่ได้คำนวณค่าผ่อนคอนโดมิเนียม สุดท้ายต้องรับภาระค่างวดผ่อนที่สูงเกินกำลังจ่าย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังต้องการซื้อคอนโดมิเนียมราคาประมาณ 3 ล้านบาท แล้วเกิดคำถามว่าควรจะวางเงินดาวน์เท่าไหร่ดี ถึงจะผ่อนแบบไม่หนักเกินไป มีวิธีคิดคำนวณผ่อนบ้านหรือคอนโดอย่างไร สามารถค้นหาคำตอบได้ในบทความนี้
“เงินดาวน์” คืออะไร? ทำไมต้องใส่ใจตั้งแต่ต้น
“เงินดาวน์” คือ เงินก้อนแรกที่ผู้ซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมต้องจ่ายให้กับโครงการก่อนจะยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อยอดผ่อนรายเดือน โดยทั่วไป ธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้สูงสุดประมาณ 70–90% ของราคาคอนโดมิเนียม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น รายได้ของผู้กู้ ภาระหนี้สินที่มีอยู่ และนโยบายของแต่ละธนาคารในช่วงเวลานั้น
ตัวอย่าง: คอนโดมิเนียมราคา 3,000,000 บาท
- วางเงินดาวน์ 10% = 300,000 บาท ยอดกู้ธนาคารเหลือ 2,700,000 บาท
- วางเงินดาวน์ 20% = 600,000 บาท ยอดกู้ธนาคารเหลือ 2,400,000 บาท
- วางเงินดาวน์ 30% = 900,000 บาท ยอดกู้ธนาคารเหลือ 2,100,000 บาท
จะเห็นได้ว่า ยิ่งวางเงินดาวน์มาก ยอดกู้ก็จะยิ่งน้อย ส่งผลให้ภาระผ่อนรายเดือนลดลงตามไปด้วย
ตารางเปรียบเทียบค่าผ่อนคอนโดมิเนียม ยิ่งวางดาวน์มาก ผ่อนยิ่งเบา
ยกตัวอย่าง หากเลือกผ่อน 30 ปี ดอกเบี้ยเฉลี่ย 6.5% ต่อปี
เงินดาวน์ |
จำนวนเงินที่กู้ |
ค่างวดต่อเดือน* |
10% (300,000 บาท) |
2,700,000 บาท |
≈ 17,000 บาท |
20% (600,000 บาท) |
2,400,000 บาท |
≈ 15,200 บาท |
30% (900,000 บาท) |
2,100,000 บาท |
≈ 13,300 บาท |
หมายเหตุ: ตัวเลขผ่อนต่อเดือนเป็นการคำนวณโดยประมาณ อาจแตกต่างไปตามดอกเบี้ยจริงในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละธนาคาร
จะเห็นได้ว่า การวางเงินดาวน์มากขึ้นแม้ต้องเก็บเงินนานขึ้นเล็กน้อย แต่ช่วยให้ยอดผ่อนเบาลงอย่างมีนัยสำคัญ และลดดอกเบี้ยรวมตลอดอายุสัญญาได้ด้วย
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกวางเงินดาวน์
การตัดสินใจวางเงินดาวน์ไม่ใช่แค่เรื่องของการมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ แต่ควรดูภาพรวมของการเงินและไลฟ์สไตล์ของคุณร่วมด้วย เพื่อให้คุณผ่อนคอนโดมิเนียมได้แบบไม่ตึงเครียดจนเกินไป เช่น
- คุณมีเงินก้อนอยู่แล้วหรือยัง?
ถ้ามีเงินเก็บอยู่พอสมควร หรือสามารถเก็บเพิ่มได้ในระยะเวลาไม่นาน การวางดาวน์ให้มากขึ้นจะช่วยให้คุณกู้ธนาคารน้อยลง ดอกเบี้ยลดลง และค่างวดผ่อนต่อเดือนก็จะสบายขึ้นในระยะยาว - รายได้ของคุณมั่นคงแค่ไหน?
ถ้าคุณเพิ่งเริ่มงาน เปลี่ยนงาน หรือรายได้ยังไม่แน่นอน ควรเลือกวางเงินดาวน์ให้เหมาะสม และคำนวณให้ยอดผ่อนต่อเดือนไม่เกินกำลัง เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน - คุณมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อะไรบ้างในแต่ละเดือน?
อย่าลืมว่าคอนโดมิเนียมไม่ได้มีแค่ค่าผ่อนกับธนาคาร แต่ยังมีค่าส่วนกลาง ค่าจอดรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง รวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นควรเผื่อเงินไว้สำหรับส่วนนี้ด้วย - คุณอยากปลดภาระเร็ว หรืออยากผ่อนสบายที่สุด?
บางคนเลือกวางเงินดาวน์สูง เพื่อจะได้ผ่อนหมดไว เสียดอกเบี้ยน้อย ขณะที่บางคนเลือกผ่อนน้อย ผ่อนสบาย แต่ผ่อนนาน ถึงแม้จะต้องเสียดอกเบี้ยมากกว่าก็ตาม ซึ่งทั้งสองทางเลือกไม่มีถูกหรือผิด อยู่ที่ว่าแบบไหนเหมาะกับชีวิตคุณมากกว่า
วางแผนการเงินดี ชีวิตไม่ติดภาระ
การคำนวณผ่อนบ้านหรือคอนโดมิเนียมอย่างรอบคอบ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้คุณบริหารการเงินได้ง่ายและยังมีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในแต่ละเดือน ซึ่งหลักการทั่วไปที่แนะนำ คือ ภาระผ่อนคอนโดมิเนียมไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน เช่น หากคุณมีรายได้เดือนละ 50,000 บาท ค่างวดผ่อนคอนโดมิเนียมที่เหมาะสมก็ไม่ควรเกิน 15,000 บาท
จากตัวอย่างนี้ หากต้องการให้ภาระผ่อนอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ควรวางเงินดาวน์อย่างน้อย 20–30% ของราคาคอนโดมิเนียม แม้จะต้องใช้เวลาสะสมเงินก้อนสักหน่อย แต่ก็เป็นการลงทุนที่ช่วยลดภาระค่าผ่อนระยะยาว และเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อผ่านได้ง่ายขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เพื่อความมั่นใจก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ ลองใช้เครื่องมือคำนวณสินเชื่อจากเว็บไซต์ธนาคาร หรือปรึกษาฝ่ายสินเชื่อของโครงการ เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระให้เหมาะกับรายได้ของคุณจริง ๆ
ทิปส์เล็ก ๆ สำหรับคนเริ่มวางแผนซื้อคอนโดมิเนียม
เพื่อให้คุณวางแผนซื้อคอนโดมิเนียมได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น เราได้รวบรวมทิปส์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ให้ เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงิน และช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายการมีคอนโดมิเนียมเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น ดังนี้
- เริ่มต้นเก็บเงินดาวน์ให้เร็วที่สุด พร้อมตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น หากต้องการเงินดาวน์ 300,000 บาท ในระยะเวลา 2 ปี เท่ากับต้องเก็บปีละ 150,000 บาท หรือเดือนละ 12,500 บาท
- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายธนาคารก่อนตัดสินใจยื่นกู้ เพื่อให้ได้เงื่อนไขสินเชื่อที่คุ้มค่าและเหมาะกับกำลังผ่อนของคุณมากที่สุด
- อ่านรายละเอียดโปรโมชันให้ครบถ้วน เพราะบางโครงการอาจมีโปรโมชันพิเศษ เช่น ดาวน์ต่ำ ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี ซึ่งต้องศึกษาให้รอบคอบ
- ใช้เครื่องคำนวณสินเชื่อจากเว็บไซต์ธนาคาร หรือปรึกษาฝ่ายสินเชื่อของโครงการ เพื่อประเมินภาระผ่อนจริงก่อนตัดสินใจ
หากคุณกำลังวางแผนซื้อคอนโดมิเนียมในราคาประมาณ 3 ล้านบาท การวางเงินดาวน์นับว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคง เพราะยิ่งวางแผนล่วงหน้าได้ดีเท่าไหร่ วางเงินดาวน์ได้มากเท่าไหร่ ภาระการผ่อนระยะยาวก็จะยิ่งเบาลงเท่านั้น แม้จะต้องใช้เวลาสะสมเงินก้อนบ้าง แต่ผลลัพธ์คือความสบายใจและเสถียรภาพทางการเงินที่ยั่งยืน
และถ้าคุณกำลังมองหาคอนโดที่คุ้มค่า คิดมาเพื่อการอยู่อาศัยที่แท้จริง อย่าลืมแวะมาดูโครงการจาก แกรนด์ ยูนิตี้ คอนโดมิเนียมที่เข้าใจชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและเลือกโครงการที่ตรงใจคุณได้ คลิก https://grandunity.co.th/th/campaign/ready-to-move เพราะเรามุ่งมั่นที่จะตอบทุกเหตุผลของการใช้ชีวิต เพื่อให้คุณได้ #ใช้ชีวิตบนเหตุผลของคุณ #GrandUnity #MakesSense.