3 วิธีตั้งราคาที่มือใหม่สายปล่อยเช่าต้องรู้

ไขข้อสงสัย ปล่อยเช่าคอนโดฯ มีวิธีคิดค่าเช่าห้องอย่างไร ใช้ปัจจัยใดเป็นตัวตั้งถึงปล่อยเช่าโดยไม่ขาดทุน แถมกำไรงาม

การซื้อคอนโดมิเนียมไว้ปล่อยเช่า นับเป็นการวางแผนการเงินวิธีหนึ่ง เพราะนี่คือการลงทุนระยะยาว ในขณะเดียวก็สามารถสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง รายได้และกำไรจากการปล่อยเช่าจะทยอยเข้าสู่กระเป๋า หากในอนาคตต้องการขายต่อก็มีโอกาสทำเงินได้มาก นั่นจึงทำให้คนจำนวนมากตัดสินใจลงทุนซื้อคอนโดฯ เพื่อปล่อยเช่า สร้างโอกาสทำเงินระยะยาว แต่เพราะการตั้งราคาปล่อยเช่าจำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลายอย่าง นั่นจึงทำให้ต้องคำนวณค่าเช่าอย่างถี่ถ้วน และเพื่อไม่ให้ปล่อยเช่าคอนโดฯแล้วขาดทุน วันนี้ แกรนด์ ยูนิตี้ จึงมีตัวอย่างวิธีคิดค่าเช่าห้องในราคาสมเหตุสมผล ไม่ทำให้ผู้ปล่อยเช่าขาดทุน ในขณะเดียวกันยังไม่เป็นการเอาเปรียบผู้เช่าอีกด้วย

วิธีคิดค่าเช่าห้องคำนวณได้จากอะไรบ้าง

1. วิธีคิดค่าเช่าห้องแบบตารางเมตร

วิธีสุดคลาสสิกแต่สามารถใช้คำนวณได้จริง แถมเป็นวิธีที่ง่าย ไม่ต้องคิดเลขซับซ้อน นั่นคือการคิดค่าเช่าโดยคำนวณจากพื้นที่คอนโดฯ แน่นอนว่าคอนโดฯ ห้องใหญ่มีโอกาสตั้งราคาได้สูงกว่าราคาห้องขนาดเล็ก ก่อนเริ่มต้นคำนวณค่าเช่า แนะนำให้สืบหาราคาตลาดก่อนว่าคอนโดฯ ที่เราเป็นเจ้าของนั้นปล่อยเช่าอยู่ที่เท่าไหร่ กรณีพบว่ามีการปล่อยเช่าคอนโดฯ 50 ตารางเมตร ในราคาเดือนละ 40,000 บาท สามารถคำนวณราคาต่อตารางเมตร ดังนี้

40,000 ÷ 50 เท่ากับ ราคาตารางเมตรละ 800 บาท  

เพราะฉะนั้นหากคอนโดฯ เรามีพื้นที่ 35 ตารางเมตร จึงควรปล่อยเช่าที่ราคา 800 x 35 เท่ากับเดือนละ 28,000 บาท

เท่ากับว่าราคาปล่อยเช่าของห้องนี้ คือ เดือนละ 28,000 บาท โดยคำนวณจากขนาดห้อง และถึงแม้ห้องขนาดใหญ่จะสามารถอัปราคาได้มาก แต่ถึงอย่างนั้นผู้ปล่อยเช่าต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น ทำเล สภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถนำมาใช้บวกเพิ่มหรือลดราคาค่าเช่าได้ ที่สำคัญอย่าลืมบวกค่าส่วนกลางลงในค่าเช่าด้วยจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้

2. วิธีคิดค่าเช่าห้องจากอัตราผลตอบแทน

ถือเป็นวิธีการคำนวณค่าเช่าห้องที่มีหลักการ หลายคนมองว่ายุ่งยากเพราะต้องลงพื้นที่เพื่อสำรวจว่าคอนโดฯ ละแวกนั้น ๆ ปล่อยเช่าราคาอยู่ที่เท่าไหร่ หลังจากนั้นจึงนำตัวเลขมาคำนวณอีกทีว่าจะได้ค่าตอบแทนเฉลี่ยประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ การคำนวณวิธีนี้เรียกว่า Rental Yield หรือการนำเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนการเช่ามาคูณกับราคาห้อง จากนั้นจึงหารด้วย 12 ก็จะได้เป็นราคาค่าเช่าต่อเดือน โดยมีตัวอย่างการคำนวณ กรณีราคาห้อง 6,000,000 บาท และมี Rental Yield 6 เปอร์เซ็นต์ ดังนี้

6,000,000 x 6% เท่ากับ 360,000 บาท (ราคาต่อปี)

360,000 ÷ 12 เท่ากับ 30,000 บาท (ราคาต่อเดือน)

เท่ากับว่าราคาปล่อยเช่าของห้องนี้ คือ เดือนละ 30,000 บาท หรืออาจบวกเพิ่มค่าส่วนกลางได้อีกตามเหมาะสม สำหรับวิธีนี้หากไม่ต้องการลงพื้นที่สำรวจราคาด้วยตัวเอง ปัจจุบันมีบางเว็บไซต์ให้ข้อมูลอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ทำเล สิ่งอำนวยความสะดวก ขนาดห้อง ราคาเช่า ทำให้ไม่ต้องเหนื่อยลงพื้นที่

3. วิธีคิดค่าเช่าห้องเปรียบเทียบกับโครงการใกล้เคียง

เชื่อว่าก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนคอนโดฯ ต่างทำการบ้านมาอย่างดีแล้วว่าคอนโดฯ ในละแวกเดียวกันราคาเท่าไหร่บ้าง มีข้อดีหรือข้อด้อยอย่างไร วิธีคิดค่าเช่าห้องจึงสามารถเปรียบเทียบจากโครงการใกล้เคียงได้ แต่มีข้อแม้คือต้องเลือกคอนโดฯ ละแวกเดียวกัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกคล้ายกัน จำนวนปีที่ก่อสร้างใกล้เคียงกัน เรียกง่าย ๆ ว่าต้องเป็นการเปรียบเทียบแบบสูสี สมน้ำสมเนื้อ วิธีนี้แทบไม่ต้องคำนวณอะไรให้ปวดหัว เพราะหากมั่นใจแล้วว่าคอนโดฯ ที่นำมาเปรียบเทียบมีความใกล้เคียงกันจริงก็สามารถตั้งราคาใกล้เคียงกับราคาที่คนอื่นปล่อยเช่าได้เลย โดยควรเปรียบเทียบราคา 2-3 โครงการ เพื่อหาราคาตรงกลางหรือราคาน่าพอใจที่สุด เพียงเท่านี้ก็ตั้งราคาปล่อยเช่าโดยไม่ต้องกังวลว่าจะปล่อยเช่าราคาถูกหรือแพงไป

3 เทคนิคเลือกคอนโดฯ ให้ปล่อยเช่าง่าย กำไรดี

ไม่เพียงแต่การตั้งราคาที่มีผลต่อการตัดสินใจเท่านั้น เพราะในมุมคนเช่าต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่น ๆ เพื่อให้ได้พักอาศัยในคอนโดฯ ที่พรั่งพร้อมด้วยความสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิต รวมถึงทำเลที่เห็นวิวแม่น้ำอย่างคอนโดเดอ ลาพีส จรัญ 81 ก็ถือว่าเป็นทำเลหนึ่งที่น่าสนใจ

1. ทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก

เหตุผลสำคัญที่จะทำให้คนตัดสินใจว่าจะเช่าคอนโดฯ คุณดีหรือไม่ คือทำเลต้องเดินทางสะดวกสบาย ไม่ว่าจะด้วยรถโดยสารสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนบุคคล ทำเลปล่อยเช่าจึงควรใกล้รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ทางด่วน แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งหาของกิน นอกจากผู้เช่าสามารถใช้ชีวิตสะดวกสบายแล้วยังตั้งราคาได้สูงขึ้นอีกด้วย

2. ตกแต่งพร้อมอยู่แบบพอดี

แม้การปล่อยเช่าคอนโดฯ พร้อมอยู่จะได้เปรียบ แต่ถึงอย่างนั้นอย่าแต่งห้องจนดูอลังการ เพราะอย่าลืมว่าแต่ละคนมีสไตล์ความชอบไม่เหมือนกัน ทางที่ดีควรตกแต่งพร้อมอยู่ระดับปานกลาง เปิดโอกาสให้ผู้เช่าตกแต่งห้องเองบ้าง แถมยังช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณแต่งคอนโดฯ ไปได้มากอีกด้วย

3. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย มีชัยไปกว่าครึ่ง

การมีกลุ่มเป้าหมายแน่ชัดจะช่วยให้สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด วิธีวิเคราะห์เบื้องต้นว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ทำได้ง่าย ๆ เพียงสังเกตว่าทำเลนั้น ๆ มีสถานที่สำคัญอะไรบ้าง เช่น หากใกล้โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายคือนักเรียน นักศึกษา หรือหากเต็มไปด้วยแหล่งงาน แน่นอนว่าพนักงานออฟฟิศคือกลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องเจาะเข้าถึงให้ได้

สำหรับใครที่ลงทุนซื้อคอนโดฯ เพื่อปล่อยเช่า เชื่อว่าต่อไปนี้จะมีวิธีคิดค่าเช่าห้องแบบง่าย ๆ ที่จะทำให้ปล่อยเช่าโดยไม่ขาดทุน ที่สำคัญราคายังสมเหตุสมผล ผู้เช่ารู้สึกไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งวิธีคิดค่าเช่าห้องให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสให้มีแต่คนสนใจเช่าห้อง ลดโอกาสห้องว่าง แถมยังมั่นใจด้วยว่าการปล่อยเช่าคอนโดฯ จะได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าแน่นอน

แกรนด์ ยูนิตี้ เรามุ่งมั่นที่จะตอบทุกเหตุผลของการใช้ชีวิต เพื่อให้คุณได้ #ใช้ชีวิตบนเหตุผลของคุณ